อย่างที่ทราบกันดีว่า การเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง หรือเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวแน่นอน เนื่องจากว่านอกจากจะทำให้สุขภาพไม่ดี ไม่แข็งแรงแล้ว การเจ็บป่วยยังนำมาซึ่งค่าใช้จ่าย และการที่จะต้องคอยดูแลด้วย แน่นอนว่าการดูแลผู้ป่วยนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไร ก็ล้วนแต่จะต้องมีวิธีการดูแลเฉพาะ และมีขั้นตอนในการดูแลทั้งนั้น การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง หรือ palliative care เอง ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ความเข้าใจ และใส่ใจเยอะ ๆ เช่นกัน แล้วการดูแลผู้ป่วยในรูปแบบนี้คืออะไร มาทำความเข้าใจไปพร้อมกัน 

palliative care คืออะไร 

การดูแลแบบประคับประคอง หรือ palliative care เป็นการดูแลผู้ป่วยที่จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องของการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ทั้งกับตัวผู้ป่วยเอง และครอบครัวด้วย โดยการดูแลรูปแบบนี้จะช่วยลดความทุกข์ทรมานทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และรวมไปถึงเรื่องของจิตวิญญาณด้วย ทั้งนี้ในการดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคองสามารถทำไปพร้อม ๆ กันกับขั้นตอนของการรักษาหลักได้ ตัวอย่างเช่น หากผู้ป่วยป่วยเป็นโรคมะเร็ง ผู้ป่วยก็ยังคงรักษาด้วยการรับเคมีบำบัด แต่ก็จะได้รับการดูแลแบบประคับประคองไปพร้อม ๆ กันด้วย ซึ่งจะไม่ได้เป็นการไปจำกัดการรักษาของผู้ป่วยที่ควรได้รับนั่นเอง 

อย่างไรก็ตาม ในระยะสุดท้ายของผู้ป่วยก็อาจจะมีสภาวะร่างกายที่ไม่เหมาะสมกับการรักษาแบบเดิมแล้ว จึงได้นำเอาการรักษาแบบประคับประคองเข้ามาช่วยในการรักษาโรคร่วมด้วย โดยการทำเช่นนี้จะช่วยทำให้ผู้ป่วยมีความเข้าใจในโรคที่เป็นได้มากขึ้นในเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องการพยากรณ์โรค, การรักษาโรค, ผลประโยชน์ และเรื่องของความเสี่ยงในการรักษาโรคด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการช่วยให้ผู้ป่วยสามารถตัดสินใจในการรักษาได้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้การดูแลแบบ palliative care จะต้องคำนึงถึงเรื่องของความต้องการ และความปรารถนาของตัวผู้ป่วย รวมถึงครอบครัวด้วยเสมอ 

ในการรักษาแบบ palliative care เป็นการรักษาที่ไม่ใช่แค่การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายเท่านั้น แต่ยังเป็นการดูแลที่จะต้องเริ่มจากการวินิจฉัยไปจนถึงช่วงที่ผู้ป่วยใกล้เสียชีวิตเลย โดยการดูแลจะเป็นการดูแลแบบองค์รวมที่จะต้องทำตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวาระสุดท้าย อย่างไรก็ตามการดูแลผู้ป่วยด้วยวิธีนี้ไม่ได้เป็นการดูแลแบบที่ผู้ป่วยหมดหวัง หรือรอความตาย แท้จริงแล้วการดูแลด้วยวิธีนี้สามารถช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยได้ แม้ว่าอาจจะไม่สามารถกำจัดโรคที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยได้ แต่ก็สามารถช่วยลดอาการรุนแรงที่เกิดขึ้น และความทุกข์ทรมานที่ผู้ป่วยต้องเจอลงไปได้มากทีเดียว ซึ่งถือว่าการรักษาที่ดีกับผู้ป่วยมาก ๆ