ทำกิ๊ฟคือ

GIFT(Gamete Intrafallopian Transfer) หรือ การทำกิ๊ฟคือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ในอดีตที่แพทย์ใช้อย่างแพร่หลาย  แต่ปัจจุบันไม่นิยมทำแล้ว เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วอัตราความสำเร็จของการทำกิ๊ฟอยู่ที่ประมาณ 20-30% ต่อรอบการรักษา

ขั้นตอนการทำกิ๊ฟ

1. กระตุ้นให้มีไข่ตก แพทย์จะให้ยาฮอร์โมนแก่ผู้หญิงเพื่อกระตุ้นให้รังไข่ผลิตไข่จำนวนมาก

2. เก็บไข่ แพทย์จะทำการเก็บไข่จากรังไข่ของผู้หญิงโดยวิธีการผ่าตัดเล็ก  โดยใช้เข็มดูดไข่ผ่านช่องคลอด

3. เก็บน้ำเชื้อ เก็บตัวอย่างน้ำเชื้อจากผู้ชาย

4. ล้างและคัดกรองน้ำเชื้อ แยกสเปิร์มที่มีสุขภาพดีออกจากส่วนอื่นๆ ของน้ำเชื้อ

5. ผสมไข่และอสุจิ นำไข่ที่ได้มาผสมกับอสุจิที่ผ่านการคัดกรองแล้วในห้องปฏิบัติการ

6. ฉีดตัวอ่อน แพทย์จะฉีดตัวอ่อนที่ได้โดยตรงเข้าไปยังท่อนำไข่ของผู้หญิงในช่วงที่มีไข่ตก  เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิตามธรรมชาติภายในร่างกาย

ข้อดีของการทำกิ๊ฟ

  1. เป็นเทคโนโลยีที่เรียบง่าย สะดวก และไม่รุกราน
  2. มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)
  3. ใช้เวลาในการรักษาสั้น

ข้อเสียของการทำกิ๊ฟ

  • โอกาสตั้งครรภ์น้อย โอกาสตั้งครรภ์จากการทำกิ๊ฟนั้น อยู่ที่ประมาณ 10-20% ต่อรอบการรักษา  ซึ่งน้อยกว่าการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)  และการฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่ (ICSI)
  • มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ  การทำกิ๊ฟนั้น  แพทย์จะต้องทำการผ่าตัดเล็กเพื่อเก็บไข่จากผู้หญิง  ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าวิธีอื่นๆ
  • ต้องใช้ยาฮอร์โมน  การทำกิ๊ฟนั้น  ผู้หญิงต้องใช้ยาฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นให้มีไข่ตก  ซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อารมณ์แปรปรวน
  • ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับท่อฟาโลปียน การทำกิ๊ฟนั้น  ตัวอ่อนจะต้องถูกฉีดเข้าไปยังท่อฟาโลปียนโดยตรง  ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับท่อฟาโลปียน เช่น ท่อตัน หรืออุดตัน

ตัวอย่าง

สมมติว่าคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งมีปัญหาการมีบุตร  ฝ่ายชายมีปัญหาจำนวนอสุจิน้อย  ฝ่ายหญิงมีปัญหาท่อฟาโลปียนข้างซ้ายตัน  แพทย์อาจแนะนำให้ใช้วิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)  แทนการทำกิ๊ฟ  เพราะว่าวิธีการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)  นั้น  แพทย์สามารถนำไข่และอสุจิมาผสมกันในห้องปฏิบัติการ  และคัดเลือกตัวอ่อนที่ดีที่สุดก่อนที่จะนำไปฝังตัวในโพรงมดลูก  ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้

การทำกิ๊ฟนั้น  เป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ในอดีตที่ปัจจุบันไม่นิยมทำแล้ว  เพราะว่ามีข้อจำกัดหลายประการ  แพทย์มักนิยมใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์แบบอื่นๆ  ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากกว่า เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF)  หรือการฉีดอสุจิเข้าสู่เซลล์ไข่ (ICSI)  

หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะมีบุตร ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์เพื่อรับคำแนะนำและเลือกวิธีการรักษาที่